Monday.com มี แผนราคา หลายระดับที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของทีมและองค์กร ซึ่งแต่ละแผนมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน และการเลือกแผนที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับขนาดของทีม ความต้องการเฉพาะ และงบประมาณของคุณ นี่คือรีวิวของแผนราคา และความคุ้มค่าของ Monday.com พร้อมแนวทางในการเลือกแผนที่เหมาะสมที่สุด
แผนราคาหลักของ Monday.com
- แผน Individual (ฟรี)
- ราคา: ฟรี
- ฟีเจอร์หลัก:
- รองรับผู้ใช้ 1 คน
- โครงการสูงสุด 2 โครงการ
- ฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับการติดตามงาน
- ฟังก์ชันการแสดงผลแบบตาราง
- จำกัดที่ 500 ไอเท็มต่อบอร์ด
- เหมาะสำหรับ: บุคคลที่ต้องการเครื่องมือการจัดการงานพื้นฐาน
- แผน Basic
- ราคา: ประมาณ $10 ต่อผู้ใช้/เดือน (เมื่อจ่ายรายปี)
- ฟีเจอร์หลัก:
- รองรับผู้ใช้ไม่จำกัด
- Unlimited boards
- การมองเห็นบอร์ดแบบแผนภาพ
- การติดตามสถานะงาน
- การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างบอร์ด
- เหมาะสำหรับ: ทีมขนาดเล็กที่ต้องการฟีเจอร์การจัดการงานที่หลากหลาย
- แผน Standard
- ราคา: ประมาณ $12 ต่อผู้ใช้/เดือน (เมื่อจ่ายรายปี)
- ฟีเจอร์หลัก:
- รองรับการทำงานร่วมกันในทีมขนาดใหญ่
- รองรับการทำงานหลายโครงการพร้อมกัน
- ฟังก์ชันการแสดงผลแบบ Kanban, Gantt, Timeline
- การทำงานร่วมกับแอปอื่น ๆ ผ่านการรวมการเชื่อมต่อ
- ฟีเจอร์การติดตามประสิทธิภาพของทีม
- เหมาะสำหรับ: ทีมที่ต้องการฟีเจอร์การจัดการหลายโครงการพร้อมกัน
- แผน Pro
- ราคา: ประมาณ $20 ต่อผู้ใช้/เดือน (เมื่อจ่ายรายปี)
- ฟีเจอร์หลัก:
- ฟีเจอร์สำหรับการทำงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น Time tracking, Dashboard ที่กำหนดเอง, ฟีเจอร์การวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics)
- รองรับการแสดงผลขั้นสูงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Gantt chart, Time tracking
- ฟีเจอร์ automations ขั้นสูง (สามารถตั้งค่าอัตโนมัติตามกฎที่กำหนดเอง)
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน API
- เหมาะสำหรับ: ทีมขนาดกลางถึงใหญ่ที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- แผน Enterprise
- ราคา: เริ่มต้นที่ประมาณ $30 ต่อผู้ใช้/เดือน (ขึ้นอยู่กับความต้องการ)
- ฟีเจอร์หลัก:
- ฟีเจอร์ทั้งหมดในแผน Pro และเพิ่มเติมฟีเจอร์พิเศษสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การตั้งค่าความปลอดภัยระดับสูง, การรองรับการใช้งานหลายทีม
- การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลระดับองค์กร
- ฟีเจอร์ด้านการสนับสนุนระดับพรีเมียม
- ฟังก์ชันการควบคุมการบริหารจัดการทีม และข้อมูลได้อย่างละเอียด
- เหมาะสำหรับ: องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการฟีเจอร์พิเศษสำหรับการควบคุมการทำงาน และความปลอดภัยของข้อมูล
แผนไหนดีที่สุด
การเลือกแผนที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับขนาดของทีม และความต้องการในการทำงาน ดังนี้:
- แผน Individual (ฟรี): เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการเครื่องมือการจัดการงานพื้นฐาน และใช้งานส่วนตัว
- แผน Basic: เหมาะสำหรับทีมขนาดเล็กที่ต้องการฟีเจอร์การจัดการงานทั่วไปในราคาที่ไม่สูงมาก
- แผน Standard: เหมาะสำหรับทีมขนาดกลางที่ต้องการการทำงานหลายโครงการพร้อมกัน และการทำงานร่วมกับแอปอื่น ๆ
- แผน Pro: เหมาะสำหรับทีมที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การติดตามเวลา, การวิเคราะห์ข้อมูล, และการตั้งค่าอัตโนมัติ
- แผน Enterprise: เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และการควบคุมการบริหารจัดการข้อมูลอย่างละเอียด
ความคุ้มค่าของแต่ละแผน
- แผน Basic: หากทีมของคุณยังเล็ก และต้องการเครื่องมือพื้นฐานในการจัดการโครงการ แผนนี้คุ้มค่ากับราคาที่ไม่สูงมาก
- แผน Standard: หากทีมของคุณต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดการโครงการหลายโครงการ แผนนี้เป็นตัวเลือกที่ดี
- แผน Pro: หากคุณมีทีมขนาดกลางถึงใหญ่ และต้องการฟีเจอร์พิเศษเช่น Automations หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แผนนี้จะคุ้มค่ามาก
- แผน Enterprise: หากองค์กรของคุณต้องการความปลอดภัยสูงสุด และการควบคุมที่ละเอียดในระดับองค์กร แผนนี้เหมาะสมที่สุด
ข้อพิจารณาในการเลือกแผน
- ขนาดและประเภทของทีม เลือกแผนที่เหมาะสมกับขนาดของทีม และความต้องการในการทำงานร่วมกัน
- ฟีเจอร์ที่ต้องการ พิจารณาว่าทีมต้องการฟีเจอร์อะไร เช่น การติดตามเวลา, การสร้างแดชบอร์ด, หรือการรวมเข้ากับเครื่องมืออื่น ๆ
- งบประมาณ เลือกแผนที่ตรงตามงบประมาณของคุณ แต่ยังคงมีฟีเจอร์ที่จำเป็น
- การสนับสนุนและการฝึกอบรม ถ้าคุณต้องการการสนับสนุนที่มากขึ้น อาจพิจารณาแผนที่มีการสนับสนุนระดับสูง
สรุป
- แผนราคา ที่คุ้มค่าที่สุดขึ้นอยู่กับขนาดของทีมและฟีเจอร์ที่ต้องการ แต่สำหรับทีมขนาดเล็กถึงกลาง แผน Standard ถือว่าเป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดในแง่ของฟีเจอร์ที่หลากหลายและราคาที่เหมาะสม