โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนตามไปด้วย ทำให้นักขายยุคใหม่ต้องปรับตัว และพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขัน และประสบความสำเร็จได้ในยุคดิจิทัลนี้ นี่คือ 7 ทักษะเด่นด้านการขายที่เซลส์ยุค New Normal
1. ทักษะการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัล (Tech Savvy)
การใช้เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่การทำธุรกิจส่วนใหญ่เกิดขึ้นออนไลน์ นักขายต้องรู้จักใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น CRM, Social Media, Video Conferencing, และ Marketing Automation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร และจัดการกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยี:
- การใช้ CRM (Customer Relationship Management) เช่น Salesforce หรือ HubSpot เพื่อจัดการข้อมูลลูกค้า และติดตามความคืบหน้าในกระบวนการขาย
- ใช้ LinkedIn เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจ และค้นหาลูกค้าเป้าหมายในสาขาต่างๆ
- ใช้ Zoom หรือ Google Meet ในการประชุมทางออนไลน์กับลูกค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์โดยไม่ต้องเจอกันตัวต่อตัว
2. ทักษะการขายแบบปรับแต่งส่วนบุคคล (Personalized Selling)
ลูกค้าในยุคนี้มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป นักขายต้องสามารถปรับแต่งการขายให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล หรือการนำเสนอที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย โดยการใช้ข้อมูล และเทคโนโลยีในการช่วยแนะนำสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมที่สุด
- ตัวอย่างการขายแบบปรับแต่งส่วนบุคคล:
- การใช้ข้อมูลจาก CRM เพื่อติดตามประวัติการซื้อของลูกค้า และเสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ลูกค้าซื้อในอดีต เช่น หากลูกค้าเคยซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม นักขายอาจเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความงาม
- การใช้ AI หรือ Machine Learning ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเพื่อให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง
3. ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Effective Communication)
การสื่อสารที่ดีเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการขาย เพราะการเข้าใจความต้องการของลูกค้า และการอธิบายคุณค่าของสินค้าหรือบริการได้อย่างชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ทักษะการฟัง และการถามคำถามที่ดีช่วยให้เซลส์สามารถตอบสนองได้ตรงจุด
- ตัวอย่างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ:
- การใช้ Active Listening หรือการฟังอย่างตั้งใจ ในการประชุมกับลูกค้า เพื่อทำความเข้าใจปัญหาหรือความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า
- การถามคำถามที่เป็นกลยุทธ์ เช่น “คุณมีปัญหาหรือความท้าทายอะไรในตอนนี้ที่ต้องการแก้ไข?” เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าแชร์ข้อมูลที่สำคัญ
4. ทักษะการปรับตัว (Adaptability)
การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญในยุค New Normal เนื่องจากการทำงานจากระยะไกล, การประชุมออนไลน์ และการเปลี่ยนแปลงของตลาดเกิดขึ้นบ่อยๆ นักขายต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของลูกค้า
- ตัวอย่างการปรับตัว:
- การปรับวิธีการขายจากการพบลูกค้าแบบตัวต่อตัวมาเป็นการขายออนไลน์ผ่านการประชุมทางวิดีโอ
- การใช้ Social Media เพื่อสร้างเครือข่าย และทำการขายเมื่อมีการจำกัดการพบปะหรือการเดินทาง
5. ทักษะการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Relationship Building)
การสร้าง และรักษาความสัมพันธ์ที่ดี และยั่งยืนกับลูกค้าเป็นทักษะที่สำคัญในการขาย โดยเฉพาะในยุคที่ลูกค้าเปลี่ยนไปค่อนข้างเร็ว การรักษาความสัมพันธ์นั้นต้องใช้ทั้งความเอาใจใส่, การตอบสนองที่รวดเร็ว และ การให้บริการที่ดี
- ตัวอย่างการสร้างความสัมพันธ์:
- การใช้ CRM ในการติดตามและส่งข้อความที่มีคุณค่าให้กับลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล, ข้อความบนโซเชียลมีเดีย, หรือการส่งข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ
- การติดตามการบริการหลังการขาย และการสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงบริการและรักษาความสัมพันธ์ที่ดี
6. ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis Skills)
การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นทักษะที่มีความสำคัญในการตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การขาย นักขายสามารถใช้ข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือ CRM, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า, และการขายในอดีตมาใช้ในการคาดการณ์ผลลัพธ์ และปรับกลยุทธ์การขาย
- ตัวอย่างการใช้การวิเคราะห์ข้อมูล:
- ใช้ Google Analytics เพื่อติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ของลูกค้า และทำการปรับกลยุทธ์การขายตามข้อมูลที่ได้จากการเยี่ยมชมเว็บไซต์
- การใช้ข้อมูลจาก Salesforce หรือ HubSpot ในการวิเคราะห์แนวโน้มการขาย และหาลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อสูง
7. ทักษะการให้บริการที่เหนือกว่าความคาดหวัง (Customer Service Excellence)
การให้บริการที่ดี และเกินความคาดหวังเป็นทักษะที่สำคัญเพื่อสร้างความภักดีจากลูกค้า การดูแลลูกค้าและตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ทันท่วงทีสามารถช่วยให้เกิดการซื้อซ้ำ และการบอกต่อ
การใช้ Chatbots หรือบริการแชทออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา และช่วยแก้ไขปัญหาหรือข้อสงสัยของลูกค้าได้ทันที
ตัวอย่างการให้บริการที่เหนือกว่าความคาดหวัง:
การเสนอการบริการหลังการขายที่เหนือกว่าความคาดหวัง เช่น การติดตามลูกค้าหลังการขาย, การให้คำปรึกษาเพิ่มเติม หรือการส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ในโอกาสพิเศษ
นอกจาก 7 ทักษะเด่นด้านการขายที่เซลส์ยุค New Normal ข้างต้นแล้ว นักขายยุคใหม่ยังควรมี
- ความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยี การใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น โปรแกรม CRM, โซเชียลมีเดีย และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เป็นสิ่งจำเป็นในการทำงาน
- ความสามารถในการปรับตัว โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นักขายต้องมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
- ทักษะการสื่อสาร การสื่อสารที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
การพัฒนาทักษะเหล่านี้จะช่วยให้นักขายสามารถ
- ปิดการขายได้เร็วขึ้น ด้วยการเข้าใจความต้องการของลูกค้า และนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตรงใจ
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ
- เพิ่มยอดขายและผลกำไรให้กับองค์กร ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ
หากคุณต้องการพัฒนาตัวเองให้เป็นนักขายมืออาชีพ คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการ
1. เรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณขาย
การเข้าใจสินค้าหรือบริการของตัวเองอย่างลึกซึ้งจะช่วยให้คุณสามารถนำเสนอได้อย่างมั่นใจและตรงจุด ลูกค้าจะรู้สึกมั่นใจในตัวคุณเมื่อคุณสามารถอธิบายคุณลักษณะ, ข้อดี, และการใช้งานของสินค้าหรือบริการได้อย่างชัดเจน
- วิธีการเริ่มต้น:
- ศึกษาข้อมูลและคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการที่คุณขายอย่างละเอียด
- ฝึกพูดและอธิบายให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวฟัง เพื่อเสริมความมั่นใจ
2. พัฒนาทักษะการสื่อสาร (Communication Skills)
การสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการขาย นักขายมืออาชีพต้องสามารถสื่อสารได้ทั้งในด้านการฟังและการพูด โดยฟังอย่างตั้งใจเพื่อเข้าใจปัญหาหรือความต้องการของลูกค้า และสามารถอธิบายคำตอบหรือเสนอแนวทางที่เหมาะสมกับลูกค้าได้
- วิธีการเริ่มต้น:
- ฝึกฟังลูกค้าให้มากขึ้น โดยการถามคำถามเปิดเพื่อให้ลูกค้าแชร์ข้อมูล
- ฝึกการพูดให้ชัดเจน และทำให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการมีความน่าสนใจ
3. เรียนรู้การจัดการเวลา (Time Management)
นักขายที่ดีต้องสามารถจัดการเวลาของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถติดตามลูกค้า, วางแผนการขาย, และปรับกลยุทธ์การขายตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
- วิธีการเริ่มต้น:
- ใช้เครื่องมือจัดการเวลา เช่น Google Calendar, Trello, หรือ Asana เพื่อวางแผนงานต่างๆ ที่ต้องทำในแต่ละวัน
- กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและทำการติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ
4. พัฒนาทักษะการฟังและเข้าใจลูกค้า (Active Listening)
การฟังที่ดีและเข้าใจความต้องการของลูกค้าจะช่วยให้นักขายสามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักขายและลูกค้า
- วิธีการเริ่มต้น:
- ฝึกฟังลูกค้าด้วยความตั้งใจ และไม่ขัดจังหวะเมื่อพวกเขาพูด
- ใช้การสรุปหรือสะท้อนคำพูดของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณเข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการ
5. พัฒนาทักษะการจัดการกับข้อโต้แย้ง (Handling Objections)
นักขายที่ดีต้องสามารถจัดการกับข้อโต้แย้งจากลูกค้าได้ โดยการฟังข้อกังวลของลูกค้าอย่างตั้งใจ และหาทางตอบสนองด้วยการเสนอข้อมูลหรือคำอธิบายที่ทำให้ลูกค้าคลายความกังวล
ฝึกใช้เทคนิคการถามคำถามเพื่อทำให้ลูกค้าเห็นประโยชน์ของสินค้าหรือบริการในมุมมองใหม่
วิธีการเริ่มต้น: ฝึกตอบข้อโต้แย้งที่มักเกิดขึ้นจากลูกค้า เช่น เรื่องราคา หรือคุณภาพ
ทักษะเหล่านี้คือทักษะที่นักขายในยุค New Normal ควรมีเพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด และความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีในการขาย การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง และการมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าจะทำให้ทีมขายสามารถแข่งขัน และประสบความสำเร็จในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้
หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI EsteeMATE มี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ ที่นี่