รวมทุกเครื่องมือขายเข้าด้วยกัน การนำระบบ Integrations ที่ทีมขายควรรู้ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมขายมีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้การทำงานของทีมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และราบรื่น โดยการรวมเครื่องมือ และระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกันช่วยลดความยุ่งยากในการสลับไปมาระหว่างแพลตฟอร์ม หรือการป้อนข้อมูลซ้ำ ๆ ที่อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ การมีระบบที่เชื่อมต่อกันยังช่วยให้ข้อมูลถูกส่งต่อ และอัปเดตโดยอัตโนมัติในทุกแพลตฟอร์มที่ใช้งาน ทำให้ทุกคนในทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นปัจจุบันได้ตลอดเวลา
สิ่งสำคัญที่สุดคือ Integrations ที่ทีมขายควรรู้ ช่วยประหยัดเวลา และลดความซับซ้อนในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการข้อมูล การติดตามผลการขาย หรือการทำงานร่วมกันในทีม ระบบที่เชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัวจะทำให้ทีมสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น และสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และการเพิ่มยอดขายได้อย่างเต็มที่ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการใช้ Integrations จึงมีความสำคัญ และส่งผลดีต่อประสิทธิภาพของทีมขาย
รวมทุกเครื่องมือขายเข้าด้วยกัน มีเครื่องมือ และการเชื่อมต่อ (Integrations) ที่ทีมขายสามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือเครื่องมือหลักที่ควรทราบ
1. CRM Integrations
- Salesforce เชื่อมต่อข้อมูลลูกค้า และโอกาสขายเพื่อจัดการการขายอย่างมีประสิทธิภาพ
- HubSpot การนำเข้าข้อมูลผู้ติดต่อ และติดตามโอกาสขาย
2. การสื่อสาร
- Slack รับการแจ้งเตือน และอัปเดตจากทีมขายในช่องทางที่สะดวก
- Microsoft Teams สื่อสาร และทำงานร่วมกับทีมได้อย่างรวดเร็ว
3. การจัดการอีเมล
- Gmail ติดตามอีเมลจากลูกค้า และบันทึกการติดต่อใน monday.com
- Outlook เชื่อมต่ออีเมลเพื่อจัดการการติดตามลูกค้า
4. เครื่องมือการจัดการข้อมูล
- Google Sheets นำเข้าหรือส่งออกข้อมูลลูกค้าสำหรับการวิเคราะห์
- Zapier เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
5. การจัดการโครงการ
- Trello นำเข้าบอร์ดงานจาก Trello เพื่อรวมการจัดการโครงการ
- Asana เชื่อมโยงการทำงาน และติดตามความก้าวหน้า
6. การชำระเงิน
- Stripe ติดตามการชำระเงินจากลูกค้าใน monday.com
- PayPal จัดการการชำระเงินและบันทึกในระบบ
7. การวิเคราะห์ข้อมูล
- Google Analytics ติดตามการเข้าชมเว็บไซต์และพฤติกรรมของลูกค้า
- Tableau นำเข้าข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และสร้างรายงาน
- EsteeMATE เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการทำงานของทีมขาย
8. การตลาด
- Mailchimp เชื่อมต่อกับระบบการตลาดอีเมลเพื่อติดตามแคมเปญ
9. การบริการลูกค้า
- Zendesk บันทึกและติดตามปัญหาหรือคำถามจากลูกค้า
monday.com เป็นซอฟท์แวร์เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานของทีมขาย ให้มีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสมากขึ้น ถ้าใครยังไม่มีแอคเคาท์สำหรับเข้าใช้งาน monday.com แบบใช้งานฟรี สามารถ กดสร้างบัญชีใหม่ได้ที่นี่เลย
ขั้นตอนการตั้งค่า Integrations ใน monday.com
- เข้าสู่ระบบ เข้าสู่บัญชี monday.com ของคุณ
- เลือกบอร์ด ไปที่บอร์ดที่คุณต้องการเพิ่ม Integrations
- คลิกที่ปุ่ม “Integrate” ที่มุมขวาบนของบอร์ด จะมีปุ่มสำหรับการตั้งค่า Integrations
4. เลือก Integration ที่ต้องการ คุณจะเห็นรายการของ Integrations ที่มีให้เลือก
5. ทำการเชื่อมต่อ คลิกที่ Integration ที่คุณต้องการใช้งาน และทำตามขั้นตอนการเชื่อมต่อ เช่น การลงชื่อเข้าใช้บัญชีอื่น ๆ หรือการอนุญาตการเข้าถึงข้อมูล
ตัวอย่าง Integrations ที่ทีมขายควรใช้
1. Salesforce
- การตั้งค่า: เชื่อมต่อ Salesforce เพื่อดึงข้อมูลลูกค้าและโอกาสขายเข้าสู่ monday.com
- ตัวอย่างการใช้งาน: เมื่อลูกค้าใหม่ถูกสร้างใน Salesforce ระบบจะส่งข้อมูลเข้ามายังบอร์ดใน monday.com โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ทีมขายสามารถติดตามได้ทันที
2. Gmail
- การตั้งค่า: เชื่อมต่อบัญชี Gmail กับ monday.com
- ตัวอย่างการใช้งาน: เมื่อคุณส่งอีเมลถึงลูกค้า ระบบสามารถบันทึกการติดต่อและเชื่อมโยงกับบอร์ดลูกค้า เพื่อให้ข้อมูลเป็นระเบียบและง่ายต่อการติดตาม
3. Slack
- การตั้งค่า: เชื่อมต่อบัญชี Slack
- ตัวอย่างการใช้งาน: ตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนในช่อง Slack เมื่อมีการอัปเดตสถานะของโอกาสขาย เช่น การเปลี่ยนแปลงจาก “รอดำเนินการ” เป็น “สำเร็จ”
4. HubSpot
- การตั้งค่า: เชื่อมต่อกับ HubSpot เพื่อดึงข้อมูลผู้ติดต่อและโอกาสขาย
- ตัวอย่างการใช้งาน: ทีมขายสามารถดูและจัดการโอกาสขายที่มีอยู่ใน HubSpot โดยตรงจาก monday.com ทำให้ลดเวลาในการสลับไปมาระหว่างระบบ
5. Zapier
- การตั้งค่า: ใช้ Zapier เพื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่างๆ
- ตัวอย่างการใช้งาน: เมื่อมีการสร้าง Lead ใหม่ใน Google Sheets, Zapier สามารถตั้งค่าให้ข้อมูลนั้นถูกส่งเข้าสู่บอร์ดใน monday.com โดยอัตโนมัติ
การรวมเครื่องมือขายต่าง ๆ เข้าไว้ใน monday.com ช่วยให้ทีมขายสามารถจัดการและติดตามกระบวนการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้ monday.com เป็นแพลตฟอร์มกลางในการประสานงานและบริหารจัดการทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขายในที่เดียว ประโยชน์ที่ได้รับจากการรวมเครื่องมือขายต่าง ๆ ไว้ใน monday.com ได้แก่:
1. การติดตามกระบวนการขายแบบครบวงจร
- การรวมเครื่องมือขายใน monday.com ช่วยให้สามารถติดตามทุกขั้นตอนของกระบวนการขายได้อย่างมีระเบียบ ตั้งแต่การสร้างโอกาสขาย (Leads) ไปจนถึงการปิดการขาย (Closing Deals)
- ทีมสามารถใช้บอร์ด (Boards) ใน monday.com เพื่อจัดการงาน เช่น การกำหนดสถานะของลูกค้า, กำหนดระยะเวลาในการติดตาม, และดูการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน
2. การเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารในทีม
- ทุกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขาย เช่น อีเมล, ข้อเสนอ, และการสนทนาในทีมขาย สามารถจัดเก็บและสื่อสารในที่เดียวกันใน monday.com
- ใช้ฟีเจอร์ updates หรือ comments เพื่อให้สมาชิกในทีมสามารถแสดงความคิดเห็น, ส่งข้อความ, หรือทำการอัปเดตในแต่ละงานได้ทันที ลดการใช้หลายเครื่องมือในการสื่อสาร
3. การรวมข้อมูลลูกค้าและการจัดการการติดต่อ
- คุณสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าใน monday.com ได้โดยใช้ฟีเจอร์ custom fields ที่สามารถระบุข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล์, หรือประวัติการติดต่อ
- ใช้ฟีเจอร์ CRM integration ของ monday.com เพื่อเชื่อมต่อกับระบบ CRM ที่ใช้งานอยู่ เช่น Salesforce หรือ HubSpot, ทำให้ข้อมูลลูกค้าถูกซิงค์และอัปเดตอัตโนมัติ
4. การวิเคราะห์ผลลัพธ์และการติดตามประสิทธิภาพ
- คุณสามารถสร้าง dashboards ที่แสดงข้อมูลแบบ real-time เพื่อให้สามารถติดตามผลการขายได้ทันที เช่น จำนวนลูกค้าที่ได้รับการติดต่อ, อัตราการปิดการขาย, หรือยอดขายที่เกิดขึ้น
- monday.com ยังรองรับการสร้างกราฟหรือรายงานที่ช่วยในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของทีมขาย, ช่วยในการตัดสินใจและการปรับกลยุทธ์