Social Selling คือ การใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าหรือผู้สนใจ โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างแบรนด์ส่วนตัวที่แข็งแกร่ง เพื่อส่งเสริมการขาย (Sales) หรือการปิดดีลได้ง่ายขึ้น
การ สร้างแบรนด์ส่วนตัวให้ปัง หมายถึงการสร้างภาพลักษณ์ที่มีคุณค่าและเชื่อมโยงกับความน่าเชื่อถือ ผ่านการแสดงออกในสื่อออนไลน์ เช่น การโพสต์บทความที่มีคุณค่า การแชร์ความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง หรือการตอบสนองความคิดเห็นและคำถามจากผู้ติดตามอย่างมืออาชีพ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้สนใจรู้สึกเชื่อมั่นและไว้วางใจแบรนด์หรือบุคคลนั้นๆ
ความสำคัญในการสร้างแบรนด์ส่วนตัวและปิดดีลได้ง่ายขึ้น?
- ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง:
- Social Selling ช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับลูกค้า โดยไม่ต้องพึ่งพาวิธีการขายแบบดั้งเดิม เช่น การโทรขายหรือการประชุมแบบตัวต่อตัว เนื่องจากการปฏิสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์มีความสะดวกและเข้าถึงได้ง่าย ทำให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและต่อเนื่องได้
- สร้างความน่าเชื่อถือ:
- การโพสต์เนื้อหาที่มีคุณค่า เช่น การแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งจะทำให้ผู้ติดตามหรือผู้สนใจในแบรนด์ของคุณเกิดความไว้วางใจ และกล้าที่จะทำธุรกิจกับคุณ
- สร้างโอกาสในการปิดดีล:
- เมื่อผู้ติดตามเริ่มเชื่อมั่นในตัวแบรนด์หรือบุคคลที่มีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมีภาพลักษณ์ที่เชื่อถือได้ พวกเขามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการได้ง่ายขึ้น เพราะพวกเขารู้สึกว่าได้รับข้อมูลหรือการบริการที่ตรงกับความต้องการจากผู้ขายที่มีความเชี่ยวชาญ
- การใช้เครื่องมือออนไลน์:
- แพลตฟอร์มเช่น LinkedIn, Facebook, Instagram หรือ Twitter เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างแบรนด์ส่วนตัวและทำ Social Selling เนื่องจากสามารถทำให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมได้อย่างตรงจุด ตัวอย่างเช่น การแชร์เนื้อหาที่มีความสัมพันธ์กับปัญหาหรือความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้คุณสามารถเป็นผู้ที่อยู่ในใจของลูกค้าได้ในระยะยาว
ข้อดี
1. เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
- โซเชียลมีเดียทำให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์เนื้อหาหรือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตามจากทั่วโลกที่อาจมีความสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณ โดยไม่จำกัดเฉพาะในวงแคบ
- การเข้าถึงผู้คนจำนวนมากทำให้มีโอกาสเพิ่มโอกาสในการขายและการปิดดีลได้มากขึ้น
2. สร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
- การใช้ทำให้คุณสามารถสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือผู้สนใจได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องรอให้พวกเขาติดต่อมาเอง
- โดยการมีปฏิสัมพันธ์ผ่านการโพสต์, คอมเมนต์, และการตอบกลับคำถาม ลูกค้าจะรู้สึกว่าคุณใส่ใจและพร้อมให้บริการเสมอ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ยาวนาน
3. เพิ่มความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
- เมื่อคุณแชร์เนื้อหาที่มีคุณค่า เช่น เคล็ดลับ, บทความ, หรือคำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่คุณเสนอ จะทำให้ผู้ติดตามมองเห็นว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ
- ความน่าเชื่อถือที่สร้างจากการแชร์ความรู้และการให้คำแนะนำจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น
4. ลดต้นทุนการขาย
- ช่วยให้คุณสามารถลดต้นทุนการขายได้มาก เพราะไม่ต้องพึ่งพาวิธีการขายแบบดั้งเดิมที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูง เช่น การโทรหาลูกค้าหรือการส่งใบเสนอราคา
- การใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการสื่อสารจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว
5. ช่วยในการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภค
- ผู้บริโภคในปัจจุบันมักจะใช้เวลาอยู่ในโลกออนไลน์และหาข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ ช่วยให้คุณปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้
- เมื่อผู้บริโภคเห็นว่าแบรนด์ของคุณมีการปฏิสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอและมีความใส่ใจในการให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ พวกเขาจะรู้สึกไว้วางใจและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
6. สามารถติดตามและวัดผลการขายได้อย่างชัดเจน
- การใช้ผ่านแพลตฟอร์มเช่น LinkedIn, Instagram, Facebook หรือ Twitter จะช่วยให้คุณสามารถติดตามการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ง่าย
- คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการตอบสนองของลูกค้า, ความสนใจของพวกเขา, และความสำเร็จในการปิดดีล รวมถึงการวัดประสิทธิภาพของการโพสต์หรือกิจกรรมต่างๆ ที่คุณทำเพื่อสร้างความสัมพันธ์
7. ช่วยให้เกิดการสื่อสารแบบสองทาง
- ช่วยให้เกิดการสื่อสารที่เป็นกันเองและเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แสดงความคิดเห็น, ถามคำถาม, หรือขอคำแนะนำ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขามีส่วนร่วมและคุณใส่ใจในการตอบสนองความต้องการของพวกเขา
- การตอบกลับและการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสินค้าหรือบริการของคุณ
8. สามารถใช้คอนเทนต์เพื่อส่งเสริมการขาย
- ให้โอกาสในการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า เช่น บทความ, วิดีโอสอนการใช้งาน, หรือโพสต์เกี่ยวกับกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้อง
- การแชร์คอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการและความสนใจของลูกค้าจะทำให้พวกเขาอยากเรียนรู้เพิ่มเติมและพิจารณาซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ
9. สร้างการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้แบรนด์ของคุณสามารถรับรู้และเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว
- การสร้างการมีส่วนร่วมและการสร้างเครือข่ายกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นในสายตาผู้บริโภค
ตัวอย่าง 1: คุณนัท – ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนบุคคล
บริบท: คุณนัทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินส่วนบุคคลที่มีลูกค้าหลายรายที่ต้องการคำแนะนำในเรื่องการลงทุน การเก็บออม และการวางแผนภาษี
การใช้
- การโพสต์เนื้อหาที่มีคุณค่า: คุณนัทใช้ Facebook และ LinkedIn ในการแชร์บทความเกี่ยวกับการวางแผนการเงิน การลงทุน และการบริหารความเสี่ยงในตลาดหุ้น โดยจะใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้และเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม เช่น วิธีเลือกลงทุนในช่วงเศรษฐกิจขาลง หรือวิธีการวางแผนภาษีสำหรับคนทำงานฟรีแลนซ์
- การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม: คุณนัทตอบคำถามในคอมเมนต์ และเปิดการสนทนาในโพสต์ของตัวเอง เช่น “มีใครอยากรู้เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมหรือไม่?” หรือ “คุณคิดอย่างไรกับการวางแผนการเงินในยุคดิจิทัล?”
- การใช้คำรับรองจากลูกค้า: คุณนัทโพสต์รีวิวจากลูกค้าที่พอใจในบริการของเขา เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เช่น “ขอบคุณคุณนัทที่ช่วยให้การเงินของฉันมั่นคงขึ้นและมีผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน”
ผลลัพธ์:
- คุณนัทได้สร้างภาพลักษณ์ของตัวเองในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่มีความรู้และสามารถช่วยผู้คนจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลูกค้าที่เห็นโพสต์และรีวิวที่มีคุณค่าของเขารู้สึกมั่นใจและตัดสินใจติดต่อขอคำแนะนำจากคุณนัท โดยที่ไม่ต้องใช้การโทรหาลูกค้าแบบดั้งเดิม
ตัวอย่าง 2: คุณเมย์ – โค้ชการพัฒนาตนเอง
บริบท: คุณเมย์เป็นโค้ชด้านการพัฒนาตนเองและการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในองค์กรต่างๆ
การใช้
- การโพสต์เคล็ดลับการพัฒนาตนเอง: คุณเมย์ใช้ Instagram ในการโพสต์บทความสั้นๆ, ภาพหรือวิดีโอที่มีแรงบันดาลใจ เช่น “5 วิธีในการจัดการความเครียดในที่ทำงาน” หรือ “ทักษะสำคัญในการเป็นผู้นำที่ดี” โดยจะใช้ภาพที่มีแรงบันดาลใจและเนื้อหาที่มีประโยชน์
- การใช้ Instagram Stories และ Reels: คุณเมย์ใช้ Stories ในการแชร์คำแนะนำสั้นๆ ในแต่ละวัน เช่น เทคนิคการตั้งเป้าหมาย หรือการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพในที่ทำงาน และใช้ Reels เพื่อสร้างวิดีโอที่มีความสนุกสนานแต่ยังให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง
- การมีการเชื่อมโยงกับผู้ติดตาม: คุณเมย์จะตอบกลับคอมเมนต์ในโพสต์ของเธออย่างเป็นกันเอง โดยเฉพาะการถามความคิดเห็นจากผู้ติดตามในเรื่องต่างๆ เช่น “คุณมีเป้าหมายอะไรในปีนี้บ้าง? มาแชร์กันในคอมเมนต์ค่ะ!”
ผลลัพธ์:
- คุณเมย์สร้างแบรนด์ส่วนตัวที่ดูเป็นมิตรและให้ความรู้แก่ผู้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ผู้ติดตามรู้สึกไว้วางใจและตัดสินใจติดต่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองหรือเข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรม
- ลูกค้าหลายคนที่สนใจในโปรแกรมโค้ชของเธอติดต่อมาเองโดยตรงผ่านทาง DM (Direct Message) ใน Instagram โดยที่ไม่ต้องมีการประชุมหรือติดต่อด้วยวิธีการที่เป็นทางการก่อน
ตัวอย่าง 3: คุณจอม – นักออกแบบกราฟิก
บริบท: คุณจอมเป็นนักออกแบบกราฟิกที่มีทักษะในการสร้างโลโก้และกราฟิกที่โดดเด่น
การใช้ Social Selling:
- การโพสต์ผลงานของตัวเอง: คุณจอมใช้ Instagram และ Behance ในการโพสต์ผลงานออกแบบกราฟิกที่เขาทำเสร็จแล้ว เช่น โลโก้สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือการออกแบบเว็บไซต์ให้กับลูกค้า
- การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกแบบ: คุณจอมแชร์เคล็ดลับในการออกแบบกราฟิก เช่น “การเลือกสีให้เหมาะสมกับแบรนด์” หรือ “ทำไมการใช้ฟอนต์ที่ดีถึงสำคัญต่อการออกแบบ”
- การใช้ Hashtags ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย: คุณจอมใช้ Hashtags เช่น #GraphicDesign, #LogoDesign, #Freelancer เพื่อให้คนที่สนใจในบริการออกแบบสามารถพบเห็นผลงานของเขาได้
ผลลัพธ์:
- ด้วยการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและแชร์ผลงานอย่างสม่ำเสมอ คุณจอมสามารถสร้างแบรนด์ส่วนตัวที่ได้รับความน่าเชื่อถือในฐานะนักออกแบบกราฟิก
- ลูกค้าหลายรายที่สนใจในบริการออกแบบติดต่อผ่าน Instagram โดยตรง และบางครั้งไม่ต้องใช้การประชุมที่ซับซ้อนก่อนที่จะตกลงราคาและเงื่อนไขการทำงาน
การใช้เพื่อสร้างแบรนด์ส่วนตัวให้ปังและปิดดีลได้ง่ายขึ้นนั้น จำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เพื่อแสดงความเชี่ยวชาญ แชร์เนื้อหาที่มีคุณค่า และสร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตามผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม แชร์ความคิดเห็น หรือใช้เครื่องมือทางสังคมในการเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ช่วยให้สามารถสร้างแบรนด์ส่วนตัวที่น่าเชื่อถือและทำให้ลูกค้าติดต่อขอซื้อสินค้า/บริการได้ง่ายขึ้น