sales team performance tracking

sales team performance tracking, งานขาย Sales

การปิดการขายที่ดี เริ่มจากการมี KPI และ Feedback ที่ชัดเจนภายในทีม

หลายองค์กรพยายามหาวิธีเพิ่มยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นการอบรมทักษะการเจรจา การใช้เครื่องมือ CRM หรือการทำโปรโมชั่น แต่ความจริงแล้ว รากฐานของการปิดการขายที่ดี เริ่มจากการมี KPI (Key Performance Indicators) และ Feedback ที่ชัดเจน ภายในทีม เพราะหากไม่มีการวัดผลและการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา ทีมขายจะไม่รู้ทิศทาง และอาจสูญเสียโอกาสสำคัญไป KPI: […]

sales team performance tracking, งานขาย Sales

Omnichannel Sales vs Omnichannel HR: ทำไมพนักงานก็ต้องการประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อเหมือนลูกค้า

ในยุคที่ธุรกิจแข่งขันกันสูง ลูกค้าคาดหวังการบริการที่ “ไร้รอยต่อ” (Seamless Experience) ไม่ว่าจะซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ พวกเขาต้องการความสะดวก รวดเร็ว และสอดคล้องกันทุกจุดสัมผัส (Touchpoint) สิ่งนี้คือหัวใจของ Omnichannel Sales แต่สิ่งที่หลายองค์กรยังมองข้ามคือ พนักงานเองก็ต้องการประสบการณ์แบบเดียวกัน ในการทำงานประจำวัน นี่คือแนวคิดของ Omnichannel HR Omnichannel

sales team performance tracking, งานขาย Sales

การตลาดแบบ Omnichannel กับการปิดการขายที่มีประสิทธิภาพ

การตลาดแบบ Omnichannel (ออมนิแชนแนล) กับการปิดการขายที่มีประสิทธิภาพ เป็นสองแนวคิดที่เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดและสามารถเสริมสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับธุรกิจได้อย่างมากเมื่อทำงานร่วมกัน การตลาดแบบ Omnichannel คือแนวทางการทำการตลาดที่ใช้หลายช่องทางในการติดต่อและให้บริการลูกค้า โดยที่ลูกค้าสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์การซื้อสินค้าและบริการได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะติดต่อกับธุรกิจผ่านช่องทางไหน เช่น ออนไลน์ (เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, โซเชียลมีเดีย) หรือออฟไลน์ (ร้านค้า, ศูนย์บริการลูกค้า, โทรศัพท์) โดยการเชื่อมโยงข้อมูลและการบริการที่สอดคล้องกันทุกช่องทาง

sales team performance tracking, งานขาย Sales

การขายแบบ Hyper-Personalization ปรับแต่งข้อเสนอให้ตรงใจลูกค้า

การขายแบบ Hyper-Personalization คือการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อสร้างข้อเสนอที่มีความเฉพาะเจาะจงและตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งไม่ใช่แค่การเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าโดยรวม แต่เป็นการปรับแต่งข้อเสนอให้ตรงกับพฤติกรรม ความสนใจ และความต้องการของลูกค้าแต่ละคนแบบเฉพาะเจาะจง ความแตกต่างระหว่าง Personalization และ Hyper-Personalization องค์ประกอบหลักของการขายแบบ Hyper-Personalization ประโยชน์ของการขายแบบ Hyper-Personalization ตัวอย่างการใช้งาน Hyper-Personalization Starbucks – โปรแกรมสมาชิกและการให้บริการที่ปรับแต่ง

sales team performance tracking, งานขาย Sales

การใช้ Data Analytics เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า

การใช้ Data Analytics เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเป็นกระบวนการที่สำคัญในการทำความเข้าใจและคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าผ่านข้อมูลที่มีอยู่ โดยการนำเทคนิคต่างๆ มาใช้ในการวิเคราะห์และตีความข้อมูลเพื่อให้สามารถตัดสินใจทางธุรกิจที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดหรือบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าด้วย Data Analytics สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ 1. การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection) ขั้นตอนแรกคือการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ซึ่งสามารถมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น

sales team performance tracking, งานขาย Sales

5 วิธี การตอบข้อโต้แย้งของลูกค้า ให้ได้ผล (พร้อมตัวอย่าง)

การตอบข้อโต้แย้งของลูกค้า คือกระบวนการที่สำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและรักษาความไว้วางใจในบริการหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ การตอบข้อโต้แย้งที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจและช่วยป้องกันการสูญเสียลูกค้าไป นี่คือ 5 วิธีที่สามารถใช้ตอบข้อโต้แย้งของลูกค้าได้ผล พร้อมตัวอย่างที่เข้าใจง่าย 1. รับฟังข้อโต้แย้งอย่างละเอียด (Active Listening) การรับฟังอย่างละเอียดหมายถึงการฟังลูกค้าพูดโดยไม่ขัดจังหวะและไม่เร่งรีบตัดสินปัญหาหรือเสนอวิธีแก้ไขก่อนที่ลูกค้าจะพูดจบ เพราะการที่ลูกค้ารู้สึกว่าเขาได้รับการฟังอย่างเต็มที่จะทำให้ความกังวลของเขาลดลง การรับฟังอย่างใส่ใจยังทำให้เราได้ข้อมูลครบถ้วน ซึ่งจะช่วยในการหาทางแก้ไขที่ถูกต้องมากขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติม ตัวอย่าง: ลูกค้า: “สินค้าตัวนี้ไม่ตรงตามที่โฆษณาเลย” คุณ:

sales team performance tracking, งานขาย Sales

7 ทักษะ การเป็นนักขายมืออาชีพในปี 2025

การเป็นนักขายมืออาชีพในปี 2025 นอกจากจะต้องมีทักษะพื้นฐานแล้ว ยังต้องพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและแนวโน้มของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น 7 ทักษะที่นักขายมืออาชีพต้องมีในปี 2025 ได้แก่ 1. ความเข้าใจเทคโนโลยีและการใช้เครื่องมือดิจิทัล ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น นักขายมืออาชีพต้องสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลได้อย่างคล่องแคล่ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 2. ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญของการขาย นักขายมืออาชีพต้องสามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน น่าสนใจ และเข้าใจง่าย

sales team performance tracking, งานขาย Sales

Social Selling การใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อเสริมสร้างยอดขาย

Social Selling เป็นแนวทาง การใช้โซเชียลมีเดีย ในการเชื่อมต่อและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การนำเสนอสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการให้ข้อมูลที่มีคุณค่า เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขายในอนาคต แนวทางนี้มีความสำคัญมากขึ้นในยุคดิจิทัล เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ใช้งานโซเชียลมีเดีย และคาดหวังการตอบสนองที่รวดเร็ว และมีความเป็นส่วนตัวจากแบรนด์ การใช้ Social Selling ในมุมมองที่ลึกขึ้น 1. การสร้างโปรไฟล์ที่มีคุณค่า (Personal

sales team performance tracking, งานขาย Sales

การปรับตัวกับการขายออนไลน์ วิธีการทำการขายในยุคดิจิทัล

การปรับตัวกับการขายออนไลน์ ในยุคดิจิทัลเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจทุกประเภทในปัจจุบัน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การค้าขายก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก การขายสินค้าและบริการออนไลน์จึงกลายเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มยอดขาย ในการปรับตัวเพื่อขายออนไลน์นั้น ควรพิจารณาหลายด้านดังนี้ 1. การเลือกแพลตฟอร์มขายออนไลน์ การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในการขายออนไลน์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ ซึ่งมีหลายแพลตฟอร์มที่สามารถเลือกใช้งานได้ เช่น 2. การสร้างแบรนด์และการตลาดออนไลน์ การสร้างแบรนด์ที่มีความชัดเจน และการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้และมีความเชื่อมั่นในสินค้า โดยการตลาดออนไลน์สามารถทำได้หลายวิธี เช่น 3. การจัดการสินค้าและคลังสินค้า

sales team performance tracking, งานขาย Sales

การจัดการการติดตามผล (Follow-up) เทคนิคการติดตามลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสการขาย

การจัดการการติดตามผล (Follow-up) เป็นกระบวนการที่สำคัญในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายในระยะยาว ซึ่งการติดตามผลที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจสามารถแปลงโอกาสที่เกิดขึ้นเป็นการขายจริงได้มากขึ้น โดยมีเทคนิคการติดตามที่สำคัญดังนี้ 1. การกำหนดเวลาการติดตามผลที่เหมาะสม การติดตามผลควรทำในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งไม่ควรสายเกินไปหรือเร็วเกินไป เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกถูกกดดันหรือถูกละเลย โดยทั่วไปแล้ว 2. การใช้ช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย การเลือกช่องทางในการติดตามผลขึ้นอยู่กับความสะดวกและความคุ้นเคยของลูกค้า รวมถึงประเภทของสินค้าและบริการที่นำเสนอ เช่น 3. การตั้งคำถามที่สร้างการสนทนา การใช้คำถามที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นหรือชี้แจงความต้องการจะช่วยให้การติดตามผลไม่เป็นเพียงการบังคับการขายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และการสนทนาที่มีคุณค่า

Scroll to Top