นักขายยุคใหม่ กับ โลกยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย นักขายยุคใหม่จึงต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเป็น นักขายยุคใหม่ ที่สามารถ ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ต้องมีการปรับตัวทั้งในด้าน เทคโนโลยี, ทักษะการสื่อสาร, และ กลยุทธ์การขาย ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจพฤติกรรมและความคาดหวังของลูกค้าในยุคดิจิทัลด้วย นักขายในยุคใหม่จึงต้องมีวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เทคนิคที่นักขายยุคใหม่ควรนำไปปรับใช้
- เข้าใจลูกค้าเชิงลึก
- วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น CRM เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า เช่น ประวัติการซื้อ พฤติกรรมการใช้งาน และความสนใจ
- Personalization ปรับแต่งการนำเสนอสินค้าหรือบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
- Social Listening ติดตามความคิดเห็นและพูดคุยของลูกค้าบนช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าใจความต้องการที่แท้จริง
- สร้างความสัมพันธ์
- สร้างเครือข่าย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ผ่านการสื่อสารที่เป็นกันเองและให้ความช่วยเหลืออย่างจริงใจ
- สร้าง Community สร้างกลุ่มลูกค้าหรือชุมชนออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้มีปฏิสัมพันธ์กันและแบ่งปันประสบการณ์
- Content Marketing สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า เช่น บทความ วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิก เพื่อให้ลูกค้าได้เรียนรู้และเข้าใจสินค้าหรือบริการมากขึ้น
- ใช้เทคโนโลยี
- Sales Automation ใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งอีเมลตามกำหนด การติดตามผลการขาย
- CRM ใช้ระบบ CRM เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าและติดตามการทำงานของทีมขาย
- Social Selling ใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างแบรนด์ส่วนตัวและเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย
- ปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล
- E-commerce ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
- Digital Marketing ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ เช่น SEO, Google Ads, Social Media Marketing
- Video Marketing สร้างวิดีโอเพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการ
- เรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
- ติดตามเทรนด์ ติดตามเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการการขายและการตลาด
- เข้าร่วมอบรม เข้าร่วมอบรมสัมมนาเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะ
- Network สร้างเครือข่ายกับนักขายคนอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
วิธีการปรับวิถีการทำงานเพื่อปิดการขายได้เร็วขึ้น
1. ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
การใช้เครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยสามารถช่วยให้กระบวนการขายเร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อจัดการข้อมูลลูกค้าและติดตามการสนทนาอย่างต่อเนื่อง, การใช้ Automation Tools เพื่อส่งอีเมลอัตโนมัติหรือข้อความเพื่อเตือนลูกค้าถึงข้อเสนอพิเศษ และ Sales Enablement Tools ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนอ
- ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยี:
- การใช้ Salesforce หรือ HubSpot CRM เพื่อจัดการข้อมูลลูกค้าและติดตามทุกขั้นตอนของกระบวนการขาย โดยสามารถตั้งเตือนหรือแจ้งเตือนเกี่ยวกับการติดตามลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งช่วยให้ไม่พลาดโอกาสในการปิดการขาย
- การใช้ Email Marketing Automation เพื่อส่งข้อเสนอหรือโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าหลังจากที่ได้ทำการสนทนาไปแล้ว โดยที่ไม่ต้องดำเนินการด้วยตนเองทุกครั้ง
2. การสร้างความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว
นักขายยุคใหม่ต้องสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผ่านการเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การติดต่อครั้งแรก การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
- ตัวอย่างการสร้างความสัมพันธ์:
- การใช้ Social Media เช่น LinkedIn เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าและแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น แชร์บทความหรือกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณ
- การตอบสนองลูกค้าอย่างรวดเร็ว เช่น ใช้ Chatbots หรือ Live Chat เพื่อตอบคำถามลูกค้าในเวลาจริง และแนะนำสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการ
3. การนำเสนอที่ตรงจุดและกระชับ
การขายที่ดีในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการนำเสนอที่ยาวนาน แต่ต้องสามารถเข้าใจปัญหาของลูกค้าและนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการได้ทันที
- ตัวอย่างการนำเสนอที่กระชับ:
- ใช้ Elevator Pitch (การนำเสนอในเวลาไม่เกิน 30 วินาที) เพื่อสื่อสารข้อดีของผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเข้าใจได้ทันที
- การใช้ Product Demos แบบออนไลน์ที่สามารถแสดงการใช้งานจริงของสินค้าอย่างรวดเร็ว และเน้นจุดขายหลักที่ตอบโจทย์ลูกค้า
4. การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ในการตัดสินใจ (Data-Driven Selling)
นักขายต้องสามารถใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการใช้เครื่องมือที่สามารถติดตามกิจกรรมของลูกค้า เช่น การใช้ Analytics หรือ Behavior Tracking ในการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มในการตัดสินใจซื้อ
- ตัวอย่างการใช้ข้อมูล:
- การใช้ Google Analytics หรือ Hotjar เพื่อติดตามการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของลูกค้าและดูว่าพวกเขาสนใจอะไรมากที่สุด เช่น พวกเขาคลิกดูผลิตภัณฑ์ไหนบ่อยๆ หรือใช้เวลานานในหน้าผลิตภัณฑ์ประเภทใด
- การใช้ HubSpot CRM ที่สามารถแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า เช่น การเปิดอีเมลหรือการคลิกข้อเสนอพิเศษ ซึ่งสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าเมื่อลูกค้าพร้อมที่จะปิดการขาย
5. การปิดการขายที่มีประสิทธิภาพ
นักขายยุคใหม่ต้องมีทักษะในการปิดการขายที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคนิคต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น Urgency Close (สร้างความเร่งด่วน), Assumptive Close (สมมติว่าลูกค้าตัดสินใจแล้ว), หรือ Trial Close (การทดสอบการตัดสินใจ) เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น
- ตัวอย่างการปิดการขาย:
- Urgency Close: “ตอนนี้สินค้าของเราเหลือแค่ 3 ชิ้นสุดท้ายในสต็อก ถ้าคุณต้องการมันผมแนะนำให้คุณทำการสั่งซื้อในตอนนี้นะครับ”
- Assumptive Close: “ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าจะใช้บริการนี้, เราสามารถเริ่มกระบวนการได้ทันทีและจัดส่งให้คุณภายใน 3 วันครับ”
- Trial Close: “คุณคิดว่าโปรแกรมนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้นได้อย่างไรบ้างครับ?”
6. การปรับตัวตามพฤติกรรมลูกค้า
นักขายที่ดีในยุคนี้ต้องสามารถปรับกลยุทธ์และวิธีการขายให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละประเภท เช่น ลูกค้าที่ต้องการข้อมูลมากก่อนตัดสินใจ, ลูกค้าที่ต้องการความสะดวกและเร็ว หรือลูกค้าที่สนใจในข้อเสนอพิเศษ
- ตัวอย่างการปรับตัวตามพฤติกรรม:
- หากลูกค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจ สามารถให้ Whitepapers, Case Studies, หรือ Product Brochures ที่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
- หากลูกค้าเน้นความรวดเร็วในการตัดสินใจ, นักขายอาจจะใช้การเสนอ Special Discounts หรือ Limited Time Offers เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น
7. การติดตามผลอย่างมีประสิทธิภาพ
การติดตามผลหลังการเสนอขายเป็นสิ่งสำคัญในการปิดการขาย นักขายต้องใช้ระบบที่มีการแจ้งเตือนหรือติดตามสถานะของลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้การติดต่อหลุดไป
- ตัวอย่างการติดตามผล:
- การใช้ CRM ในการตั้งเตือนเกี่ยวกับการติดตามลูกค้าหลังจากที่ได้ทำการเสนอราคาแล้ว เช่น ส่งอีเมลติดตามผล 1 สัปดาห์หลังจากที่เสนอไป
- ใช้การส่ง Follow-up Messages หรือโทรศัพท์เพื่อติดตามสถานะของลูกค้าและหาทางช่วยให้พวกเขาตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- เน้นการแก้ปัญหา มองหาปัญหาของลูกค้าและนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เป็นทางออก
- สร้างความน่าเชื่อถือ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเองและองค์กร
- ติดตามผล ติดตามผลการขายและปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น
- สร้างความแตกต่าง ทำให้สินค้าหรือบริการของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง
ตัวอย่างเครื่องมือที่นักขายยุคใหม่ควรใช้
- CRM Salesforce, HubSpot, Zoho CRM
- Marketing Automation Marketo, Pardot
- Social Media Facebook, LinkedIn, Instagram
- Analytics Google Analytics
สรุป
นักขายยุคใหม่ต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค การเข้าใจลูกค้า การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม จะช่วยให้นักขายสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI EsteeMATE มี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ ที่นี่