Author name: Outsellin

Monday.com, sales team performance tracking

เพิ่มประสิทธิภาพทีมขายด้วย monday.com การใช้ Automation เพื่อประหยัดเวลา

การใช้ Automation เพื่อประหยัดเวลา ฟีเจอร์ Automation ช่วยให้ทีมขายประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยการจัดการกับงานซ้ำ ๆ และกระบวนการที่ต้องทำเป็นประจำอย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้ทีมสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีมูลค่ามากขึ้น เช่น การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและการปิดการขาย ตัวอย่างเช่น การติดตามลูกค้าอัตโนมัติที่เกิดขึ้นหลังจากการส่งข้อเสนอหรือการติดต่อลูกค้าครั้งแรก เมื่อมีระบบ Automation ทีมขายไม่จำเป็นต้องจดจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ […]

Monday.com, sales team performance tracking

การจัดการโอกาสทางการขาย (Sales Pipeline) ด้วย monday.com

การจัดการโอกาสทางการขาย (Sales Opportunities) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ทีมขายสามารถระบุและติดตามโอกาสในการปิดการขายที่มีศักยภาพสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จของทีมขายและการเติบโตของธุรกิจ โดยการจัดการโอกาสทางการขายที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยเพิ่มอัตราการปิดการขายและเพิ่มรายได้ให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการโอกาสทางการขาย sales pipeline มีความสำคัญอย่างมากในกระบวนการขาย เพราะเป็นการสร้างภาพรวมที่ชัดเจนของขั้นตอนต่าง ๆ ที่ลูกค้าผ่านไปตั้งแต่เริ่มสนใจจนถึงการปิดการขาย การจัดการ pipeline อย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ทีมขายสามารถติดตามและประเมินความคืบหน้าของโอกาสการขายได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถระบุได้ว่าในแต่ละขั้นตอนมีลูกค้ากี่รายที่อยู่ใน pipeline และมีโอกาสในการปิดการขายในแต่ละช่วงเท่าไร การมีข้อมูลที่ชัดเจนนี้ช่วยให้ทีมสามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Monday.com, sales team performance tracking

การติดตามทีมขายแบบเรียลไทม์ด้วย monday.com

การติดตามทีมขายแบบเรียลไทม์ มีความสำคัญอย่างมากเพราะช่วยให้ผู้จัดการทีมและทีมขายสามารถรับรู้ถึงสถานะปัจจุบันของยอดขายและกระบวนการขายได้ทันที ข้อมูลที่อัปเดตอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนมีข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ทำให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การรับรู้ถึงปัญหาหรือโอกาสที่เกิดขึ้นในเวลาจริงช่วยให้ทีมสามารถปรับกลยุทธ์หรือแนวทางการขายได้ทันที ไม่ต้องรอการรายงานผลแบบสรุปที่อาจทำให้เสียเวลาและทำให้พลาดโอกาสสำคัญ Photo by krakenimages on Unsplash การติดตามทีมขายแบบเรียลไทม์ ยังทำให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีข้อมูลสนับสนุน ผู้จัดการสามารถเห็นได้ว่าผลลัพธ์การขายของทีมเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้ และหากพบว่ามีช่องว่างระหว่างยอดขายที่ทำได้กับเป้าหมาย ก็สามารถดำเนินการแก้ไขหรือนำเสนอวิธีการช่วยเหลือทันที เช่น การมอบหมายงานใหม่ การให้คำแนะนำเพิ่มเติม

Example OKRs, How-to OKRs

สร้างวัฒนธรรม OKR ในทีมขาย เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำงานแสดงร่างคำตอบ

สร้างวัฒนธรรม OKR ในทีมขาย เปลี่ยนวิธีคิดในทีมขายนั้น เป็นกระบวนการที่ต้องการความร่วมมือและการมุ่งมั่นจากทุกคนในทีมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และท้าทาย ซึ่ง OKR ไม่เพียงแค่ช่วยให้ทีมขายมุ่งสู่ผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ยังเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้เกิดการทำงานร่วมกัน, การติดตามผล, และการปรับปรุงประสิทธิภาพการขายอย่างต่อเนื่อง สร้างวัฒนธรรม OKR ในทีมขาย ต้องมีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน, มีการติดตามผลที่สม่ำเสมอ, และต้องสนับสนุนการพัฒนาและการปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทีมสามารถบรรลุเป้าหมาย 1. สื่อสารให้ชัดเจน เข้าใจง่าย

Example OKRs, How-to OKRs

เชื่อมโยง OKR กับ KPI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทีมขาย

เชื่อมโยง OKR กับ KPI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทีมขาย เป็นการย่อมาจากการเชื่อมโยง OKR (Objectives and Key Results) กับ KPI (Key Performance Indicators) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ ทีมขาย เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการกำหนดเป้าหมายและวัดผลการทำงาน โดยที่

Monday.com, sales team performance tracking

วิธีใช้ monday.com ในการจัดการกระบวนการขายอย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีใช้ monday.com เครื่องมือจัดการโปรเจกต์ และการทำงานร่วมกันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทีมขาย เนื่องจากเครื่องมือเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน และการสื่อสารภายในทีม โดยการจัดเก็บข้อมูล และเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ในที่เดียว ทำให้สมาชิกในทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นแผนการขาย กำหนดการนัดหมาย หรือข้อมูลลูกค้า เครื่องมือเหล่านี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลหรือเอกสารที่จำเป็นสำหรับการทำงาน ทำให้ทีมสามารถมุ่งเน้นไปที่การขาย และการบริการลูกค้าได้มากขึ้น Photo by Campaign Creators on

Monday.com

กรณีศึกษา รีวิวการใช้งาน monday.com ในธุรกิจจริง

monday.com เป็นเครื่องมือการจัดการโปรเจกต์และการทำงานร่วมกันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน มาดูกรณีศึกษาการใช้งานจริงในธุรกิจเพื่อให้เห็นภาพการใช้งานที่เป็นประโยชน์ กรณีศึกษา บริษัท X – การจัดการโครงการการตลาด บริษัท X เป็นบริษัทการตลาดขนาดกลางที่มีลูกค้าหลายรายและโปรเจกต์ที่หลากหลาย ก่อนที่จะใช้ monday.com บริษัทใช้เครื่องมือการจัดการโปรเจกต์ที่ค่อนข้างธรรมดา ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการติดตามสถานะงานและการสื่อสารภายในทีม การใช้งาน monday.com 2. การทำงานร่วมกัน 3.

Monday.com

รีวิว แผนราคา และความคุ้มค่าของ monday.com เลือกแผนไหนดีที่สุด

Monday.com มี แผนราคา หลายระดับที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของทีมและองค์กร ซึ่งแต่ละแผนมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน และการเลือกแผนที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับขนาดของทีม ความต้องการเฉพาะ และงบประมาณของคุณ นี่คือรีวิวของแผนราคา และความคุ้มค่าของ Monday.com พร้อมแนวทางในการเลือกแผนที่เหมาะสมที่สุด แผนราคาหลักของ Monday.com แผนไหนดีที่สุด การเลือกแผนที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับขนาดของทีม และความต้องการในการทำงาน ดังนี้: ความคุ้มค่าของแต่ละแผน ข้อพิจารณาในการเลือกแผน

Monday.com

ทำไม monday.com ถึงเป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับ “การทำงานร่วมกัน” ของทีมแบบ Remote

Monday.com เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการโครงการ (project management) และ”การทำงานร่วมกัน” (collaboration) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่การทำงานแบบ Remote หรือทำงานจากระยะไกล (remote work) กลายเป็นที่นิยมขึ้น ด้วยฟีเจอร์ และคุณสมบัติหลายอย่างที่ตอบโจทย์การทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกในทีมที่ไม่ได้อยู่ในที่เดียวกัน ดังนี้ 1. การจัดการงานและโปรเจกต์อย่างมีประสิทธิภาพ 2. การสื่อสารและการทำงานร่วมกันในเวลาเดียวกัน 3. การติดตามความคืบหน้าและการรายงาน 4. การเชื่อมโยงกับเครื่องมืออื่นๆ 5. การทำงานแบบยืดหยุ่น 6. ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

Monday.com

การปรับแต่ง monday.com เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

การปรับแต่ง monday.com เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สามารถทำได้หลายวิธีตามลักษณะการใช้งานของทีมงานและความต้องการที่แตกต่างกัน โดย monday.com เป็นเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งได้หลากหลายวิธี เพื่อให้เหมาะสมกับการจัดการโปรเจ็กต์ การติดตามงาน และการทำงานร่วมกันของทีม ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการปรับแต่ง monday.com เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 1. สร้างบอร์ด (Board) ที่เหมาะสมกับแต่ละโปรเจ็กต์ 2. ใช้ Views ที่หลากหลายเพื่อให้มุมมองแตกต่างกัน 3. ใช้ Automations (การทำงานอัตโนมัติ) 4. ใช้การเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่นๆ (Integrations) 5. ใช้

Scroll to Top